-->

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2561

เคล็ดลับสอบกพ.ยังไงให้ง่ายขึ้น จากผู้ผ่านการสอบงานราชการและกพ. ตัวจริง

 กพ.คืออะไร
 

สวัสดีครับผมผู้กองธี ปัจจุบันเป็นข้าราชการตำรวจ ตำแหน่ง รองสารวัตร กลุ่มงานฯบริหารจัดการระบบฐานข้อมูล ประจำอยู่ที่ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกลาง สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สํานักงานตํารวจแห่งชาติ เป็นผู้สอบผ่าน กพ. 58ซึ่งปีนั้นมีผู้สอบผ่านประมาณ 5%(ดูหนังสือรับรองด้านล่าง) สำหรับคนที่สนใจจะ สอบ กพ. เป็นการทดสอบวัดความรู้ความสามารถสำหรับข้าราชการหรือสำหรับคนที่มุ่งหวังจะเป็นข้าราชการหรือว่าคนที่อยากทดสอบว่าตัวเองมีความสามารถมีความรู้ได้มาตรฐานมั้ย ผมรู้จักการสอบ กพ. เมื่อหลายปีที่แล้วมีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำให้ไปสอบเขาก็บอกว่าเออเดี๋ยวมันมีการสอบ กพ.นะให้มึงลองไปสอบดู ผมก็ถามว่าการสอบ กพ.มันคืออะไร เพื่อนว่ามึงไม่รู้จักจริงหรอ เป็นการสอบการสอบวัดความรู้ความสามารถคือถ้ามึงอยากเป็นราชการมึงไปสอบเก็บไว้จะดี ถามเพื่อนว่าข้อสอบเป็นไงบ้างยากไหม เพื่อนบอกว่าก็ไม่ยากหรอกมึงสอบได้อยู่แล้ว เป็นข้อสอบวัดความรู้ความสามารถทั่วไปมีการคำนวณทางคณิตศาสตร์นิดหน่อย ก็บอกผมประมาณแค่นี้ มันบอกว่าตอนนั้นมันแทบไม่ได้อ่านก็ไปทำข้อสอบได้เดี๋ยวจะลองไปสอบดูก็ผ่านไปหลายปีนะครับกว่าผมจะได้มีโอกาสไปสอบ กพ. ตามที่เพื่อนแนะนำ เพื่อความไม่ประมาทผมก็ไปซื้อหนังสือเล่มหนึ่งมาอ่านเป็นหนังสืออะไรดูที่ด้านล่างนะครับ สอบ กพ.ที่ไหน ตอนนั้นที่ผมสอบก็คือเลือกสถานที่สอบเป็นกรุงเทพและปริมณฑลได้ไปสอบที่แถวนนทบุรีครับ ชานกรุงเทพเลย ไปไม่ถูกหรอกครับ นั่งรถในไปก็กลัวหลงเหมือนกันเป็นโรงเรียน ในจังหวัดนนทบุรีห้องสอบก็เป็นห้องเรียนธรรมดามีพัดลม อากาศวันนั้นก็ค่อนข้างจะร้อน เปิดหน้าต่างเปิดพัดลมร้อนครับ ยิ่งเห็นข้อสอบก็ยิ่งร้อน ข้อสอบไม่ได้ง่ายนะ แล้วก็มันก็ไม่ยากเกินไป เห็นข้อสอบก็เหงื่อตกเหมือนกัน ลองเปิดดูก่อนเลยเปิดข้อสอบค่อยๆดูเออว่าเนื้อหาประมาณไหน มันง่ายมันยากเราจะทำข้อไหนก่อนก็เปิดดูเปิดดูดูรวมๆแล้วหนักใจเหมือนกัน ก็นั่งตั้งสติค่อยๆมาไล่ดูไล่ทำข้อสอบข้อสอบ ข้อสอบจะเป็นการทดสอบความรู้ความสามารถทั่วไป แต่ไม่ใช่ความรู้รอบตัวนะ ไม่ใช่ถามว่าที่ราบสูงทิเบตอยู่ในประเทศอะไรนะครับ ประเทศจีนทิเบตอะไรอย่างนี้มันไม่ใช่ความรู้รอบตัวลักษณะแบบนั้น ข้อสอบ กพ.เป็นอย่างไร ข้อสอบจะเป็นการวัดความรู้ความสามารถในการคำนวณคณิตศาสตร์เบื้องต้น การแก้สมการ การคิดเป็นเหตุเป็นผล ตรรกศาสตร์ มิติสัมพันธ์ อนุกรม สดมภ์ ข้อสอบมันไม่ได้เป็นข้อสอบแบบถามตรงๆตอบตรงๆอะไรอย่างนี้ ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ทุกข้อมันจะแฝงไว้ด้วยความคิดซ่อนเงื่อน ใครที่เกิดมาในเป็นคนที่มีคนชอบคิดช่างสงสัยคิดเก่งแก้ปัญหาเก่งเนี่ยจะได้เปรียบเพราะว่าข้อสอบมันวัดความสามารถด้านการคิดการเป็นเหตุเป็นผล บางส่วนของข้อสอบเป็นลักษณะแบบนี้ รถคู่กับพวงมาลัย แล้วเรือคู่กับอะไร มีบ้างแต่ว่ามันก็ไม่ได้เยอะอะไร อันนี้จบภาคแรกแล้วนะเป็นข้อสอบลักษณะแบบนี้ รู้สึกว่าจะพักนะแล้วก็ตอนบ่ายจะเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษกี่ข้อจำได้ไม่แน่ชัด 40 ข้อหรือไงเนี่ยข้อสอบภาษาอังกฤษโดยส่วนตัวผมว่าไม่ยากนะครับ คือไม่ได้ถามอะไรสลับซับซ้อนอะไรใครอ่านพารากราฟแล้วจับใจความได้เราก็สามารถตอบคำถามได้ เช่นผมขอพูดเป็นภาษาไทยนะปลาโลมาเป็นสัตว์น้ำเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่น่ารักมันชอบกินขนมหวานเป็นอาหารก็ขีดเส้นใต้คำว่ามัน แล้วถามว่ามันแทนคำว่าอะไรอันนี้เป็นตัวอย่างนะหรือถามว่าเนื้อเรื่องนี้ควรตั้งชื่อว่าอะไร ใครว่าชอบอ่านภาษาอังกฤษอ่านแล้วจับใจความได้สรุปใจความได้ก็จะได้เปรียบเลย สำหรับในส่วนของภาษาอังกฤษง่ายๆผ่านแน่นอน 60% ข้อสอบภาษาอังกฤษไม่ยาก ผมเตรียมตัวสอบยังไงเหรอครับ มันไม่ใช่ว่าอ่านวันนี้แล้วพรุ่งนี้สอบคุณจะทำได้ทันทีทันใดถ้าเป็นอย่างนั้นโลกนี้มันนี้มันก็ไม่ยุติธรรมแล้วล่ะครับยกเว้นว่าคุณเตรียมตัวมาดีแล้ว เป็นคนความจำดีเลิศ มีพรสวรรค์ด้านการคำนวณเป็นเลิศนะครับ อันนั้นก็เป็นไปได้ สำหรับผมแล้วหรอครับก็คือจริงๆแล้วผมตั้งใจเรียนมาตั้งแต่เด็กๆแล้วนะครับ คนสมัยก่อนเขาจะสอนลูกสอนหลานว่าให้ตั้งใจเรียนนะเรียนเก่งๆโตขึ้นเนี่ยจะได้เป็นเจ้าคนนายคน โตขึ้นจะได้มีหน้าที่การงานดีๆทำผมเองค่อนข้างเชื่อครับผมเชื่อครับว่ามันเป็นอย่างนั้น อีกอย่างคือที่บ้านผมก็มีฐานะนะครับ มีฐานะยากจน ก็คือการศึกษาเนี่ยมันเป็นหนทางเดียวที่ผมคิดออกตอนนั้น ที่มันจะทำให้ผมน่าจะถีบตัวให้สูงขึ้นได้ ผมก็เลยตั้งใจเรียนตลอด ไม่ว่าเพื่อนฝูงจะเกเรยังไง จะชวนไปไหนผมไม่ไปเลย พูดง่ายๆก็คือเป็นเป็นเด็กเรียนตลอด แล้วก็คิดเสมอเลยครับว่าอันนี้ไม่ได้ว่าพูดเอาหล่อเอาเท่อะไรนะ เงินแทบทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อแม่ตั้งใจให้ผมนำไปใช้เรียน นำไปใช้เพื่อการศึกษาผมก็นำไปใช้เพื่อการเรียนเพื่อการศึกษาเท่านั้นนะครับ 90เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป เพราะว่าผมเห็นพ่อแม่ผมน่ะทำงานเหน็ดเหนื่อยกว่าจะได้เงินแต่ละบาท เมื่อก่อนพ่อแม่ทำไร่ ผมมีโอกาสได้ไปช่วยทำไร่บ้างก็เห็นว่ามันทั้งร้อนทั้งเหนื่อยก็เลยรู้คุณค่าของเงินครับ ไม่พยายามใช้เงินฟุ่มเฟือยใช้เงินเท่าที่จำเป็น สรุปใจความคือถ้าเราสะสมความรู้มาดีอ่านนิดหน่อย มันก็เข้าที่เข้าทางแล้ว แต่สำหรับคนที่เตรียมตัวมาน้อย วันนี้ต้องสอบแล้วจะเตรียมตัวยังไง ต้องอ่านตามหัวข้อที่ผมบอก หัวข้อที่ต้องอ่านก็แบบที่ผมบอกนั่นล่ะครับลองขึ้นไปอ่านดูข้างบนนะครับ ทำซ้ำๆต้องฝึกทำซ้ำๆ ฝึกบ่อยๆแล้วล่ะครับ ทำให้สมองให้ร่างกายเราเนี่ยมันคุ้นเคยให้มันเคยชิน ให้มันเกิดทักษะ เพราะว่าวิชาคณิตศาสตร์วิชาการคิดคำนวณเป็นวิชาทักษะก็คือต้องฝึกบ่อยๆ อาจต้องเตรียมตัวหลายเดือนหรือเป็นปี ตื่นเช้ามาออกกำลังกายออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ การออกกำลังกายที่พอดีทำให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้ดี ดื่มน้ำสะอาด ทำใจสบายๆ พยายามอย่าพูดเยอะ ถ้าพูดก็พูดที่มันเป็นประโยชน์ พูดเท่าที่จำเป็น พูดเยอะมันฟุ้งซ่าน สติไม่ดี เป็นการรบกวนความจำอันนี้ส่วนตัวผมเป็นอย่างนี้นะ กินข้าวเช้าอาหารกินง่ายๆ ข้าวไข่ต้ม น้ำพริก ปลาต้ม กินอะไรที่เป็นลักษณะย่อยง่ายนะ กินผลไม้ด้วย เช่น กล้วย มะม่วง หรืออื่นๆ อ่านหนังสืออย่างไร หลังจากนั้นก็มาอ่านหนังสือ อ่านวนไปครับโปรแกรมของเราเองเช่น 1 ชั่วโมงแรกอ่านเรื่องการคำนวณทั่วไป 2 อ่านเรื่องสถิติเบื้องต้น 3 อ่านเรื่องสดมภ์ 4 เรื่องอนุกรม เรื่องการคำนวณทั่วไปเช่นการคำนวณมุมของเข็มนาฬิกา การพายเรือทวนน้ำตามน้ำ การคำนวณด้านแรงงานเช่นมีคน 4 คนทำงานงาน 1 เสร็จภายใน 20 วันถ้ามีคน 17 คนทำงานชิ้นนี้จะเสร็จภายในกี่วัน ก็ลองไปดูนะคับวิธีแก้โจทย์ลักษณะแบบนี้ควรจะทำให้มันได้ ในแต่ละชั่วโมงอาจจะมีการนอนพักสัก 10 นาที ทำใจสบายเลยนะ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอะไรใดๆทั้งนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรเลยลองทำให้ได้ คนเราเนี่ยฝึกคิดมาจนเคยแล้วบางคนคิดมาทั้งชีวิตแล้วลองฝึกไม่คิดดูบ้าง ทำจิตใจเราให้สบายให้นิ่งที่สุด แล้วมันจะจำได้ อ่านไปแล้วอ่านไปเลยนะ ไม่ต้องมากังวลเปิดย้อนไปย้อนมา ไม่ต้องทำอย่างนั้นนะครับ เก็บไว้อ่านรอบที่สองหรือรอบต่อๆไป วันแรกอ่านให้ครบแบบนี้เลยนะในแต่ละวันอ่านให้ครบทุกบทอย่างนี้ วันต่อๆไปก็อ่านซ้ำวนแบบนี้ อาจมีโจทย์มาฝึกลองทำบ้างเพื่อให้เรามีทักษะให้มีภูมิคุ้มกัน ที่เน้นย้ำคือเรื่องเรื่องการออกกำลังกาย การกินอาการที่มีประโยชน์ การรักษาอารมณ์ให้สงบ ไม่ต้องนอนดึก ประมาณ 4 ทุ่มพอ มือถือไม่ต้องดูเลยนะครับ หลีกเลี่ยงการดูมือถือ ดูทีวี โทรคุยอะไรอย่างเนี้ยมันจะทำให้จิตใจเสียสมาธิ ผมคงเน้นย้ำเรื่องสมาธิคือสมาธิดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ตอนที่ผมสอบปี 58 มันไม่มีข้อสอบเอามาเปิดเผยใน Facebook ในอินเตอร์เน็ตอะไรเยอะแยะแบบนี้ ผมอ่านหนังสืออยู่แค่เล่มเดี๋ยวแค่นั้นแหละครับ ถึงวันสอบต้องเตรียมอะไรไปบ้าง “เตรียมตัว เตรียมบัตรต่างๆ เตรียมอุปกรณ์ เตรียมใจ ครับ” เมื่อเตรียมตัวดีละถึงวันสอบไม่ต้องอ่านแล้วนะ ถึงวันสอบเรื่องเอาหนังสือไปอ่านหรือว่านั่งรถเมล์ไปอ่านไปไม่ต้องทำนะ เราต้องมั่นใจในตัวเอง แล้วก็อย่ากังวล อย่ากลัวเกินเหตุ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมไป ใบสมัครสอบ บัตรประชาชน ดินสอ เขาเขียนไว้เลยว่าให้ใช้อย่างน้อยดินสอดำ 2B อย่างน้อยหมายถึง มากกว่าหรือเท่ากับก็ได้ส่วนตัวผมใช้ 5Bเลยครับ เพราะว่าแค่ฝนเบาๆมันก็ดำละ ถ้าคุณใช้ 2Bฝนคุณคิดว่ามันน้อยไปเครื่องอาจจะไม่อ่านคุณกังวลฝนหนักกระดาษขาดซวยเลยนะครับ ไปถึงห้องสอบไม่ต้องตื่นเต้นแล้วนะ ในใบสมัครสอบมันจะเขียนว่าเราสอบสถานที่ไหน วันไหน ห้องอะไร เลขที่นั่งสอบเท่าไร ก็ไม่ต้องกังวลมั่นใจเลย ดินสอเตรียมไปซัก 2 แท่งแต่งตัวให้เรียบร้อย วันนั้นผมใส่เสื้อโปโล กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบหุ้มส้นใช้ได้นะครับ ประกาศเขียนว่าเข้าห้องสอบได้ตั้งแต่เวลา8.30 แต่ไม่เกินเวลา9.15คุณก็ไม่ต้องรีบร้อนอะไรขนาดนั้น สบายๆ เพราะทำไงก็ได้ให้เข้าไม่เกิน 9.15น. ไม่ต้องตื่นเต้น เดี๋ยวอะไรที่อ่านมาจะลืมหมด เข้าไปแล้วก็นั่งทำสมาธิ นั่งหลับตาสบายๆ หายใจลึกๆ ทำยังไงก็ได้ให้คุณหายตื่นเต้น ชั่วโมงนั้นไม่มีใครช่วยคุณได้ละ นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วอย่างเดียวเลย กรรมการคุมสอบว่าแบบนี้ในกระดาษว่าแบบนี้จะเชื่อใครดี ผมจะแนะนำต่อไป กรรมการก็มาแจกข้อสอบ ถ้าในกระดาษคำตอบให้เขียนชื่อและข้อมูลต่างๆด้วยปากกาสีน้ำเงินเท่านั้น กรรมการบางคนให้คุณเขียนด้วยดินสอ คุณควรจะเชื่อในประกาศหรือเชื่อที่เป็นข้อความมากกว่า เพราะเพราะกรรมการคุมสอบเป็นครูในโรงเรียนนั้นๆ ที่เขาจ้างให้มาคุมการสอบในครั้งนั้น บางทีเขาก็เข้าใจอะไรผิดพลาดได้ อย่าไปเขียนด้วยดินสอนะ มันสุ่มเสี่ยงที่เครื่องมันจะเข้าใจว่าคุณน่ะทุจริตอะไรทำนองนี้ แล้วมันจะพาลไม่ตรวจคุณก็จะได้ 0 0 ไม่มีใครรับผิดชอบนะครับ ทำข้อสอบอย่างไรให้สนุกและสมาธิต่อเนื่อง ให้เปิดคำถามดูทีละหน้าว่าข้อไหนที่คุณคิดว่ามันง่าย คิดว่าที่คุณพอจะทำได้ คุณก็ทำข้อนั้นก่อน อย่าไปเสียเวลาให้ข้อที่มันยาก เขาก็ไม่ได้ออกแบบข้อสอบมาให้คุณทำได้ทุกข้อหรอก แต่ละข้อมีค่าเท่ากัน ไม่ว่าคุณจะใช้เวลาทำข้อละกี่นาทีก็ได้คะแนนแต่ละข้อเท่ากัน แนะนำอีกอย่างเวลาทำข้อสอบให้ทำลงในกระดาษคำถามก่อน ทำสัญลักษณ์อะไรไปก่อน สมาธิจะต่อเนื่อง การทำอะไรสลับไปสลับมา สมาธิมันไม่ต่อเนื่องครับ ผมแนะนำเลยครับให้คุณกาข้อที่ถูกและลงในตัวข้อสอบได้เลย ถ้าเขาไม่ได้เขียนว่าห้ามทำสัญลักษณ์ใดๆลงในตัวข้อสอบ เมื่อทำข้อสอบเสร็จหมดแล้ว ตรวจสอบเข้ากระดาษคำตอบว่าคุณได้ฝนลงไปครบทุกข้อไหมไม่ใช่ฝนข้อที่100 เอาไปใส่ข้อที่ 99 อะไรอย่างนี้ต้องระวังให้ดี ระวังผิดพลาด การเตรียมตัวของผมมันก็มีเท่านี้ เตรียมตัวสอบ กพ.ยังไงให้ง่ายขึ้น 1.ต้องทำใจสบายๆ มีสมาธิ โดยการพูดเท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงการเล่นเน็ต หรือ Social 2.อย่านอนดึก อย่าตื่นสาย 3.ออกกำลังกาย 4.กินอาหารที่มีประโยชน์ ย่อยง่าย กินผักผลไม้ 5.ต้องมั่นใจว่าคุณทำได้ บอกตัวเองทุกวัน ที่สุดแล้วคือการสะสมและตั้งใจเรียนแต่เด็ก ถ้าเราตั้งใจเรียนตั้งแต่เด็กๆ เงินทองที่พ่อแม่ให้ไปเรียนเราก็เอาไปใช้เพื่อการเรียนอย่างเดียว เพราะว่าเราเป็นนักเรียนก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะทำอะไรก็ให้นึกถึงพ่อแม่เราให้มากๆครับ ว่าทำไปแล้วเนี่ยพ่อแม่เราจะเสียใจไหม ทำไปแล้วพ่อแม่เราจะมีความภาคภูมิใจหรือดีใจไหม เงินทองมันทำยากเพราะพ่อแม่เราเสียสละใช้หยาดเหงื่อแรงกายของท่านแลกมา แทนที่จะได้กินก็ไม่ได้กิน ต้องเอามาให้เราเรียน เราก็ต้องใช้เรียนอย่างเดียว ก็ลองไปคิดดูว่าครับเงินทองที่พ่อแม่เราให้มาเพื่อให้ใช้ให้เราใช้ไปเรียนอย่างเดียวถ้าเราเอาไปทำอะไรที่มันนอกเหนือที่มันไม่ดีแสดงว่าเป็นคนยังไงครับ คุณทำยังไงคุณจะได้ผลตอบแทนอย่างนั้นล่ะครับ ก็ขอให้ทุกท่านที่ไปสอบ กพ. โชคดีครับขอให้ทำข้อสอบได้ผ่าน 60% ขึ้นไป ให้เป็นข้าราชการอย่างที่ตั้งใจไว้ สวัสดีครับ
อ่านประวัติผมเพิ่มเติมที่นี่ครับ
Blogger: https://goo.gl/Dx9EUD
FB: https://www.facebook.com/iMasteriii

 
ใบรับรองการสอบผ่าน กพ.ของผม

 
หนังสือที่ผมใช้อ่านเตรียมตัวสอบ