โตขึ้นอยากเป็น...
เมื่อตอนยังเป็นเด็กสมัยประถมอายุประมาณ 8-9ขวบ เรียนโรงเรียนวัดแถวๆบ้าน ชื่อโรงเรียนวัดท่าขาม ตามประสาเด็กบ้านนอกทั่วๆไป เช้ามาเรียน
เย็นเลิกเรียนก็ปั่นจักรยานเล่นในหมู่บ้าน สนุกสนาน
เรื่องเรียนไม่ใช่เรื่องที่ต้องเครียด
ไม่ได้สนใจเรื่องอนาคตอะไร
เรามักจะได้ยินผู้ใหญ่ถามว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร เด็กน้อยจะตอบอาชีพในฝัน หรือ สิ่งที่อยากเป็น
เช่นโตขึ้นหนูจะเป็น ตำรวจ ทหาร หมอ พยาบาล วิศวะกร นักบิน แต่ความฝันของเด็กน้อยอย่างผมในตอนนั้น ตำรวจไม่ได้เ็นอาชีพในฝัน
โตขึ้นผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ แบบ ทดลองประดิษฐ์โน่นนี่นั่น
ปี 2543 ไปสอบตำรวจกันเถอะ
เมื่อปี 2543 ตอนนั้นผมเรียนระดับอุดมศึกษาปี 2 เพือนชวนไปสอบตำรวจ ใครๆ ก็บอกว่าตำรวจสอบเข้ายากมาก
ก็อยากไปลองดูว่ามันจะยากแค่ไหน ตกลงรถไฟเพื่อไปสมัครสอบกันที่ โรงเรียนตำรวจ นครปฐม แต่วันนั้นเป็นวันเสาร์ ก็เลยไม่ได้สมัคร ปีนั้น
ปี 2548 สอบตำรวจสายปราบปราม ผลปรากฏว่า...
หลังจากพลาดการสมัครในปี 2543 ความคิดที่จะไปสอบตำรวจก็ไม่มีอีก เรียกว่าลืมไปเลย จนปี 2548 ผมก็ได้ข่าวว่าจะมีการสอบตำรวจอีก
เด็กผู้ชายหลายๆคนๆในหมู่บ้านไปสมัครสอบเหมือนปีก่อนๆ
บางคนสอบมา6-7 ครั้ง ผมอยากรู้ว่าสอบตำรวจมันจะยากอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ
ปีนี้ขอไปสอบสักทีเถอะ อาศัยรถคนในหมู่บ้านเพื่อไปสมัครสอบที่นครปฐม ...ในที่สุดปีนี้ได้สมัครสอบตำรวจแล้ว
เตรียมตัวเพื่อสอบตำรวจครั้งแรก
จากคำบอกเล่าของคนที่สอบตำรวจมาหลายๆปี มันยากอย่างโน้นอย่างนี้ เพื่อความไปประมาทเตรียมตัวสักหน่อย
ผมตรวจดูว่าจะต้องสอบวิชาอะไรบ้าง
วิธีการอ่าน ผมจะตรวจสอบว่าวิชานั้นๆ หลักของมันคืออะไร เค้าต้องการให้เรารู้เรื่องอะไรบ้าง การอ่านจะไม่ใช้การท่องจำอย่างเดียวผมต้องเข้าใจและสรุปเป็นแผนผังหรือภาพได้
ผมเริ่มอ่านหนังสือใช้เวลาเตรียมตัวประมาณ 1 เดือน
ถึงวันต้องสอบตำรวจแล้ว
เมื่อถึงวันสอบผมเตรียมตัวแต่เช้าคืนก่อนสอบผมอ่านหนังสือทบทวนอย่างใจเย็น พยายามทำสมาธิ
เตรียมอุปกรณ์การสอบ ดินสอ 2บี 2แท่ง ยางลบ บัตรประจำตัวสอบ และเข้านอนดึกมากเพราะจะทำให้สมองไม่ปลอดโปร่ง
ตื่นเช้า อาบน้ำแต่งตัว กินข้าวเช้า เตรียมตัวเดินทางไปสอบโดยรถยนต์ ถึงสนามสอบประมาณ 7โมงเช้า
ก่อนทำข้อสอบทำสมาธิสักพัก ไม่ตกอกตกใจอะไร ผมทำข้อสอบอย่างใจเย็น ซึ่งข้อสอบไม่ยากอะไร
ผมมั่นใจผมทำได้ 90%
ตรวจผลสอบจากบอร์ด ประกาศผลสอบตำรวจสายปราบปราบ ลุ้นๆๆๆ
การประกาศผลสอบในปีนั้นใช้วิธีติดบอร์ด ผมไปถึงเพื่อนที่มาก่อนก็มาบอกผมว่า....
มึงได้ที่ 3นะ 83 คะแนน ผมฟังแล้วก็เฉยๆ
ค่อนข้างผิดหวังในคะแนนที่ได้ อืมม ได้น้อยไปนะ สรุปปีนั้นผมสอบตำรวจสายปราบปรามได้ลำดับที่3 ของ ตำรวจภูธรภาค7 เสียงล่ำลือไปหลายๆหมู่บ้าน บางเสียงกล่าวว่า มันมีดีอะไรวะ คนอื่นสอบตั้งหลายครั้งไม่ติด ไอ้นี่สอบครั้งเดียวติดเลย บ้างก็ว่าหมดเงินไปเท่าไหร่ ตามสบายครับ
เตรียมตัวสอบภาคพละฯ
การสอบภาคพละจะสอบ วิ่ง ว่ายน้ำ วิ่งเก็บของ ถ้าจำไม่ผิดนะ ผมว่ายน้ำเข้าเส้นชัยแป๊บเดียวเสียงนกหวีดก็ดังขึ้นเกือบไม่ทัน
สอบวิ่งเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก ผมใช้วิธีวิ่งชิดขอบวงใน ปีนั้นก็ผ่านหมดในภาคพละ และ ตรวจสายตา
สอบภาคจิตวิทยา
การสอบภาคจิตวิทยาเป็นการตรวจสอบว่าเรามีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นตำรวจหรือไม่ คนที่สอบไม่ผ่านไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนจิตผิดปกติ
ผมดูจะกังวลกับการสอบภาคนี้มาก ทั้งๆที่เพื่อนบอกว่ามึงสอบผ่านมา 2ภาคแล้ว สอบจิตวิทยาใครๆก็ป่านกันทั้งนั้นล่ะ
ข้อสอบเป็นคำถามทั่วๆไป ผมไม่รู้เลยว่าที่ตอบไปมันหมายความว่าอะไรบ้าง
ประกาศผลสอบภาคนี้ปรากฏว่า ผม ไม่ ผ่าน ครับ เจ้าหน้าที่บอกว่า
พวกที่ไม่ผ่านส่วนมาเป็นพวกอีโก้สูงคือมีความเป็นตัวตนสูง ควบคุมยาก
ไม่เหมาะที่จะเป็นตำรวจ เฮ้อ จบกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น